เดินป่าสัมผัสกับความเขียวขจีของวนอุทยานแห่งชาติ ผจญภัยกับการข้ามสะพานแขวน เยี่ยมชาวเขาเผ่าซาไกและดำน้ำชมปลานกแก้วที่เกาะเรดัง

มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านไม่ใกล้ไม่ไกลเดินทางสะดวกปลอดภัย นั่งเครื่องบินแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ครั้งนี้ เราขอเชิญเพื่อนๆไปร่วมสำรวจเส้นทางวนอุทยานแห่งชาติตามัน ไนการ่า ซึ่งอยู่ในรัฐปาหัง ไปดำน้ำดูปะการังและปลาหลากสีสวยงามที่เกาะเรดังในรัฐตรังกานู เส้นทางนี้เหมาะกับผู้ที่รักธรรมชาติเพราะจะได้สัมผัสกับผืนป่ากว้างที่ เขียวขจีได้ชื่นชมกับสายน้ำและท้องทะเลที่มอบสิ่งอัศจรรย์ใต้น้ำให้เราได้ สัมผัส ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดสักที หลังจากที่ปอดต้องทำงานหนักกับการสู้กับมลพิษในเมืองมานาน

สนามบิน KLIA อยู่นอกเมืองกัวลาลัมเปอร์ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงถึงตัว เมือง คืนแรกคณะเดินทางพักที่โรงแรมในกัวลาลัมเปอร์ เก็บแรงไว้เดินทางในวันรุ่งขึ้น

Day 1 เส้นทางไปสู่วนอุทยานแห่งชาติตามัน ไนการ่า

คณะ เราออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปท่าเรือ Kuala Tembeling Jetty ระหว่างนั่งรถไปท่าเรือก็ได้ชมบ้านเรือนของชาวมาเลเซียไปด้วยที่น่าสนใจก็ คือบ้านเรือนของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่มีเหล็กดัดให้เห็นเกะกะลูกตาแสดงว่ากฎหมายของที่นี่ขลังเอาการจึงทำให้ ขโมยขยาดได้ รถราตามถนนไม่หนาแน่น แม้มาเลเซียจะเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์ใช้เองและน้ำมันก็ราคาถูกประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงท่าเรือระยะทางจากท่าเรือไป วนอุทยานแห่งชาติตามัน ไนการ่า ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าเรือตกคนละ 50 ริงกิต หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็ได้ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง แต่การนั่งเรือหางยาวก็ทำให้เราได้สัมผัสกับสายน้ำและวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ลมพัดเย็น ๆ ต้องผิวกาย อากาศไม่ร้อนชวนให้ง่วงหลับไปกับเรือ แต่ก็ไม่ลืมชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางไปด้วยน้ำในแม่น้ำก็ดูสะอาดสะอ้าน และไกด์ผู้นำทางก็บอกว่าทางการมาเลเซียไม่อนุญาตให้มีการสร้างบ้านเรือนตาม แม่น้ำลำคลองและปล่อยของเสียลงแม่น้ำ หรือหากเป็นแพร้านอาหารหรือร้านขายของก็ไม่มีห้องส้วมบนแพ เขาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมดีจริง

คืนนี้หลังฝนซา ไกด์ชาวมาเลเซียพาคณะเราไปเดินป่าส่องสัตว์ต้องพกไฟฉายไปด้วยตอนแรกๆ ก็กลัวทากกัน แต่พอไปเดินจริง ๆ ก็แทบไม่เห็นทากเพ่นพ่านอย่างที่นึกกลัว ไกด์ชี้ให้ดูเห็ดเรืองแสง ต้องดับไฟฉายจึงจะเห็นชัดเจน เห็ดเรืองแสงจะขึ้นหลังฝนตก อากาศชื้นเท่านั้น ไกด์ส่องไฟฉายให้ดูตั๊กแตนป่านตัวผอมที่มีสีกลมกลืนกับใบไม้ไปที่ห้างส่อง สัตว์ก็ตื่นเต้นว่าอาจจะได้เห็นสัตว์ปรากฎโฉมออกมา ปรากฏว่าไม่เห็นแม้แต่เงา เพราะฝนตก

Day 2 ผจญภัยในวนอุทยานแห่งชาติตามัน ไนการ่า

เช้านี้ทุกคนพร้อมกับการเดินป่าประมาณ 3 ชั่วโมงไกด์ชี้ชวนให้ดูต้น Suliana ซึ่งเป็นเถาไม้เลื้อยอมน้ำที่คนสมัยก่อนและชาวเขาเผ่าซาไกนำมาดูดน้ำดับ กระหายยามอยู่ในป่า มีสมุนไพรและต้นไม้ที่น่าสนใจนานาชนิด ทางเดินค่อนข้างเฉอะแฉะเพราะเมื่อวานฝนตก บางคนบอกว่าเจอทากเกาะเข้าให้แล้ว เคล็ดลับในการจัดการกับทากก็คือ เอาเกลือโรยไปที่ตัวทากหรือใช้ยาสูบ ใครที่ชอบเดินป่าคงรู้เคล็ดลับนี้ดี โชคดีที่ป่านี้ไม่ค่อยมีทากชุกชุม ไกด์ชี้ชวนให้ดูต้นเฟิร์นสองสีคือใบเฟิร์นมีสีฟ้าและสีเขียวดูสวยงามแปลกตา ทีนี้ก็มาช่วงผจญภัยที่ Canopy Walkway สะพานแขวนสำหรับผู้ที่ชอบท้าความสูงมีความยาวประมาณ 300 เมตร และสูงจากพื้นดินประมาณ 35-45 เมตร ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คนที่กลัวความสูงก็เดินได้ เพราะมองลงไปก็เห็นยอดต้นไม้ มีราวสองข้างไว้เกาะแน่นหนา ต้องเดินเรียงเดี่ยวและทิ้งระยะห่างคนละ 5-10 เมตร มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าอยู่ทุกจุดพัก หากใครไม่อยากเดินป่าก็สามารถเช่าเรือมาถึง Canopy Walkway ได้ โดยค่าเช่าเรืองลำละ 60 ริงกิต

ช่วงบ่ายไกด์พาไป Shooting ซึ่งก็คือ การนั่งเรือหางยาววิ่งเร็ว จึงควรเตรียมตัวเปียกได้ กล้องต้องใส่ถุงพลาสติกกันน้ำ บางช่วงก็มีน้ำกระฉอกเข้ามาในเรือจนตัวเปียกปอนระหว่างทางเราขึ้นเกาะแวะ เยี่ยมชาวเขาเผ่าซาไก มีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกมาดูชาวเขาสาธิตการจุดไฟด้วยวิธีธรรมชาติ

Day 3 ลาก่อนตามัน ไนการ่า

ขากลับ ออกจากวนอุทยานแห่งชาติตามัน ไนการ่า ใช้เวลานั่งเรือประมาณสองชั่วโมงกว่า เร็วกว่าขามาเพราะเรือแล่นตามน้ำ แล้วนั่งรถตู้ต่อเพื่อไปเกาะเรดัง ซึ่งอยู่ในรัฐตรังกานู ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ปรากฎว่าคณะเราเดินทางไปไม่ทันเรือเกยตื้นที่ชายฝั่งเพราะน้ำลดหลังหกโมง เย็น อาหารเย็นวันนี้คือร้านอาหารตามสั่งซึ่งอยู่ข้างทางดูพ่อครัวหัวป่าก์ทอดปลา น่าสนใจมาก เข้าใส่น้ำมันลงในกระทะก่อนตามด้วยใบตองใส่น้ำมันลงไปอีก พอร้อนก็ใส่ปลาลงไปแล้วปิดฝาให้ระอุ พลิกปลาอีกข้างพอสุกก็ราดซอสพริก หรือเราจะใช้น้ำพริกเผาก็ได้ ปิดฝาไว้สักพัก ที่นี้ปลาก็พองฟูหอมกรุ่นซอสเข้าเนื้อปลา

รุ่งเช้าเรือออกจาก ท่า 09.00น. ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะเรดัง วันนี้เราได้ไป Snorkeling กันสมใจ ค่าเช่าชุด Snorkeling 5 ริงกิต ไปถึงสะพานจะเห็นปลาบนพื้นผิวน้ำแหวกว่ายเป็นแพ ในท้องน้ำได้เห็นปลาหลากสีสวยงามมาก เช่น ปลานกแก้ว ปลาที่นี่ค่อนข้างเชื่องไม่กลัวคน หากถือขนมปังไม่ย่อมปล่อย ปลาจะแย่งกันมาตอดและอาจกัดมือเข้าให้ด้วย

มีสิ่งอัศจรรย์ ตอนกลางคืนให้ชมอีกอย่างก็คือ Blue Sand ทรายสีฟ้าที่ต้องใช้เท้ากระทืบบนผืนทรายก็จะปรากฎแสงสี่ฟ้าเรื่อเรืองออกมา ให้ยลเป็นขวัญตา

Day 4 ตรังกานู- กัวลาลัมเปอร์-  กรุงเทพฯ

เรือ ออกจากท่าเวลา 09.00 น. แล้วนั่งรถต่อไปตรังกานู พักรับประทานอาหารเที่ยงที่นี่ ตรังกานูเป็นรัฐที่ร่ำรวยน้ำมันแต่ห้างสรรพสินค้าไม่ใหญ่โตสมกับเมืองบ่อ น้ำมันเอาเสียเลย มีแหล่งช็อปปิ้งสองสามแห่งซึ่งแห่งหนึ่งสร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดเป็น ทางการ อีกแห่งหนึ่งเป็นที่ขายสินค้าพื้นเมืองมีโรงงานผ้าบาติกที่นี่ด้วย

Fast Facts
- สนใจโปรแกรมท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียติดต่อสอบถามได้ที่ Malaysia Tourism Promotion Board ที่อยู่ Unit 1001, 10th Floor, Liberty Square, 287 Silom Road, Bangkok 10500 โทร. 0-2631-1994-6
- เวลาในประเทศมาเลเซียเร็วกว่าเมืองไทยหนึ่งชั่วโมง
- 1 ริงกิต = ประมาณ 10.50 บาท
- สายการบินมาเลเซีย บินจากกรุงเทพฯ – กัวลาลัมเปอร์ สอบถามได้ที่ โทร. 0-2263-0520-33
- แท็กซี่ในกัวลาลัมเปอร์เริ่มที่ 2 ริงกิต หลังเที่ยงคืน ชาร์จ 30%

Where to stay
- Woodland Resort ที่ตามัน ไนการ่า สนใจคลิกไปที่ www.woodland.com.my
- Redang Holiday Beach Villa ที่เกาะเรดัง E-mail: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. This e-mail address is being protected from spam bots, you need JavaScript enabled to view it
- สนใจโรงแรมที่พักในกัวลาลัมเปอร์คลิกไปที่ www.hotelsthailand.com/hotel.cfm/malaysia/kuala-lumper-hotels.html

ช็อปอะไรที่ไหนดี

ช่วง เดือนกรกฎาคม – กันยายนเป็นช่วง Mega Sale ตามห้างสรรพสินค้าในกัวลาลัมเปอร์จะลดราคาสิค้าและสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อ ของที่นี่คือผ้าบาติ

ที่มา : Lisaweekly  5 กันยายน 2007